ความแตกต่างของประเภทน้ำหอม

บทความ Perfume

ความแตกต่างของประเภทน้ำหอม

Perfume

เราทำความรู้จักกับ “น้ำหอม

> อะไรคือความแตกต่าง EDT, EDP, EDC และ Parfum ?

หากใครที่กำลังสงสัยหรือเคยสับสนว่าตัวอักษรย่อต่างๆที่อยู่ข้างหลังน้ำหอมแบรน์เนม น้ำหอมเค๊าทเตอร์แบรนด์ต่างๆ หรือแม้กระทั่งน้ำหอมของแบรนด์เรา PERFASCINO PERFUME บทความนี้จะช่วยไขข้อข้องใจให้กับทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นน้ำหอมประเภท EDT EDP EDC หรือแม้แต่ Parfum โดยเราจะช่วยมาหาคำตอบและพาผู้อ่านทำความเข้าใจประเภทและชื่อย่อต่างๆของน้ำหอมทั้งหมดในบทความนี้

“น้ำหอมเกิดจากการผสมกันระหว่างน้ำมันจากพืช น้ำมันสังเคราะห์ พร้อมด้วยแอลกอฮอล์ ซึ่งน้ำหอมแต่ละประเภทก็จะมีสัดส่วนขององค์ประกอบที่แตกต่างกัน”

Perfume

PERFASCINO

เป็นน้ำหอมประเภท EDP ที่มีกลิ่นหอมยาวนานตั้งแต่เช้าจนถึงเย็น มีเอกลักษณ์ของกลิ่นหอมเฉพาะตัวและโดดเด่นเฉพาะตัว ออกแบบความหอมที่ลงตัวในแบบที่เป็นคุณ

Eau Fraiche

Perfume

คำว่า “Fraiche” หมายถึง Fresh ในภาษาอังกฤษ โดยธรรมชาติแล้วน้ำหอมประเภทนี้ประกอบด้วยถือว่าเป็นน้ำหอมที่มีความเข้มข้นของหัวน้ำหอมหรือน้ำมันน้ำหอมในปริมาณน้อยที่สุด น้ำหอมที่มีแท็ก “Eau Fraiche” ปกติแล้วจะมีราคาถูกกว่ารุ่น “EDT หรือ EDP”  เนื่องจากประกอบด้วยน้ำมันน้ำหอมเพียง 1 ~ 3% โดย Eau Fraiche ปกติแล้วจะอยู่ได้นานประมาณ 3 ชั่วโมงแต่หากฉีดลงบนเสื้อผ้าก็จะทำให้กลิ่นติดทนกว่าเดิม

Eau de Cologne (EDC)

Perfume

คำว่า “Cologne” หมายถึงน้ำหอม อย่างไรก็ตาม “Eau de Cologne” หรือ EDC หมายถึงน้ำหอมที่มีความเข้มข้นน้อยกว่า EDT แต่มีความเข้มข้นมากกว่า Eau Fraiche โดย Eau de Cologne คือ น้ำหอมที่มีความเข้มขึ้นมาอีกระดับหนึ่งโดยมีหัวเชื้อน้ำหอมอยู่ที่ประมาณ 2-6% ซึ่งกลิ่นจะอยู่ได้ประมาณ 4 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้นถ้าฉีดบนเสื้อผ้า อย่างที่กล่าวไปว่า EDC และ Eau Fraiche นั้นพบได้ไม่มากในประเทศไทย แต่ในต่างประเทศถือว่ายังเป็นที่นิยมไม่ต่างจากน้ำหอมประเภทอื่นๆ

Eau de Toilette (EDT)

Perfume

EDT เป็นน้ำหอมที่สามารถหาซื้อได้ง่ายและพบได้บ่อยที่สุดในบรรดาน้ำหอมทุกประเภท  เนื่องจาก Eau de Toilette จัดว่าเป็นน้ำหอมที่มีความเข้มข้นของน้ำมันน้ำหอมที่ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป โดยเมื่อเราลองเปรียบเทียบ Eau de Toilette กับ EDP แล้ว ความเข้มข้นของหัวน้ำหอมเมื่อเทียบกับราคาและความติดทนของกลิ่นถือว่ามีความคุ้มค่า โดยมีความเข้มข้น 5-15% ซึ่งกลิ่นจะสามารถติดทนได้ถึง 48 ชั่วโมงหากฉีดบนเสื้อผ้าและ 6-10 ชั่วโมงบนผิว

Eau de Parfum (EDP)

Perfume

Eau de Parfum หรือ EDP คือน้ำหอมที่มีเข้มข้นเป็นอันดับ 2 ในบรรดาของน้ำหอมทุกประเภทซึ่งก็แน่นอนว่าเมื่อมีปริมาณน้ำมันน้ำหอมสูงขึ้น ก็ทำให้ EDP มีราคาสูงกว่า EDT เป็นธรรมดาและน้ำหอมประเภทนี้มักจะมีกลิ่นติดทนนานมาก โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 10 ชั่วโมงหากฉีดลงบนผิวและประมาณ 16 ชั่วโมงหากฉีดลงบนเสื้อผ้า หากเป็นเมื่อก่อน เราจะสามารถหา Eau de Parfum ได้จากน้ำหอมของผู้หญิงเพียงเท่านั้น แต่ปัจจุบันเริ่มมีหลายแบรนด์ได้หันมาผลิตน้ำหอม EDP สำหรับผู้ชายมากขึ้นเรื่อยๆ 

Parfum

Perfume

Parfum คือน้ำหอมที่มีความเข้มข้นของหัวเชื้อน้ำหอมสูงที่สุดและมีราคาสูงที่สุดในบรรดาน้ำหอมทุกประเภท โดยทั่วไปจะมีหัวเชื้อน้ำหอมอยู่ที่ประมาณ 15-40% ซึ่งกลิ่นจะติดทนนานถึง 12 ชั่วโมงบนผิว หากเป็นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว บอกได้เลยว่าเป็นเรื่องยากกับการที่เราจะเป็นเจ้าของน้ำหอมประเภท Parfum เนื่องจากราคาที่สูงมากโดยน้ำหอมขนาด 5 มล. อาจมีราคามากถึง 1500 บาท แต่ในปัจจุบันน้ำหอมประเภท  Parfum สามารถหาซื้อได้ง่ายขึ้นและมีราคาถูกลงกว่าเมื่อก่อนมาก โดย 100 มล. อาจมีราคาเพียง 4000 บาทเท่านั้น

source : https://plummour.com/the-difference-of-all-perfume-types/