วิธีดูรถยนต์มือสอง
การซื้อรถมือสองเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่มีงบจำกัด แต่ถ้าคุณไม่มีความรู้ในการตรวจสภาพรถเลย ก็คงต้องรับความเสี่ยง แบบตาดีได้ตาร้ายเสีย โชคร้ายก็รับมาซ่อมต่อเราจึงได้เตรียมวิธีเช็ครถมือสอง ฉบับมืออาชีพ เพื่อให้คุณรู้ทันคนขาย ไม่ถูกย้อมแมวขาย
วิธีดูรถยนต์มือสองก่อนซื้อต้องเช็คอะไรบ้าง
อยากซื้อรถมือสอง แต่กลัวโดนย้อมแมวขาย รถไม่มีคุณภาพ ต้องซ่อมไม่จบไม่สิ้น แนะนำ วิธีดูรถมือสอง ตรวจเช็คสภาพรถยนต์มือสองเบื้องต้น ก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อเป็นข้อมูลช่วยตัดสินใจสำหรับทุกท่าน
หากไม่อยากที่จะปวดหัวกับการซ่อมรถยนต์มือสอง ลองเข้ามาดู รถยนต์มือสอง Toyota Yaris ที่เราได้เลยเรามีรับประกัน วารันตี 50,000 โลหลังจากที่ออกรถกับเรา
1. ดูตัวถังรถมือสอง
- รูปทรง
ให้สังเกตจากสายตาว่ามีรูปทรงสมส่วนหรือเอียงไปทางไหนหรือไม่ ช่องไฟระหว่างประตูเท่ากันไหม หากไม่เท่ากัน สันนิษฐานได้เลยว่าอาจจะเคยถอดออกมาซ่อม ซึ่งปกติคงไม่มีใครถอดประตูออกมาเล่น ๆ โดยไม่มีเหตุจำเป็น
- สี
ให้เราใช้มือเคาะเบา ๆ เพื่อฟังเสียง หากรถที่ยังไม่ได้ทำสี เสียงจะโปร่ง ๆ แต่ถ้ารถที่มีการโป๊วและทำสีมาใหม่ เสียงจะทึบ ๆ
อย่าลืมสังเกตความสม่ำเสมอของเนื้อสี โดยตรวจสอบสีทุกชิ้น ว่ามีสีส่วนไหนใหม่เกินจริง เป็นคลื่น หรือสีส่วนไหนผิดเพี้ยนต่างจากจุดอื่นหรือไม่ หากตวรจพบว่าชิ้นไหนผิดเพี้ยนหรือใหม่เกินความเป็นจริง สันนิษฐานได้เลยว่าอาจมีการทำสีชิ้นนั้น ๆ มา แต่ถ้าเป็นรถเก่าหรือรถคลาสสิกการทำสีใหม่เป็นเรื่องปกติ
2. ดูตะเข็บต่าง ๆ
- คาน
วิธีเลือกซื้อรถมือสอง ให้เราสังเกตร่องรอยจากคานว่ามีจุดไหนเคาะหรือซ่อมมาหรือไม่ โดยดูรอยที่หัวนอตว่ามีร่องรอยของการถอดไหม คานมีสีใหม่ผิดปกติหรือเปล่า
สติ๊กเกอร์ที่ติดมาจากศูนย์ยังอยู่หรือไม่ (ในรถบางรุ่นอาจไม่มีสติ๊กเกอร์) หากพบว่ามีรอยซ่อม รอยเคาะ หรือสติ๊กเกอร์หลุดลอกหายไป ให้สันนิษฐานว่ารถเคยชนด้านหน้ามา (บางอู่ใช้วิธีเปลี่ยนคาน ให้เราดูความคล้ำของสติ๊กเกอร์ ซึ่งไม่ควรใหม่เกินความเป็นจริง)
- แก้มข้าง
วิธีดูรถมือสองต้องดูแก้มข้างด้วย รอยนูนทั้ง 2 ฝั่ง จะต้องมีเท่ากันและเหมือนกัน หากพบว่ารอยนูนของด้านไหนหายไป หรือมีร่องรอยการซ่อม ให้สันนิษฐานว่าฝั่งที่รอยนูนหายไปอาจจะถูกชน
- ประตูและขอบประตู
การดูประตูรถมือสอง ให้เราดูรอยพับการเก็บเข้ามุมของบานประตู และให้เราดึงยางขอบประตูออกมาดูทั้ง 4 บาน โดยให้เราสังเกตที่รอยอาร์ก (รอยกลม ๆ) รถทึ่ยังไม่ผ่านการซ่อมจะต้องมีรอยอาร์กตลอดทั้งขอบประตู
3. ดูช่วงล่าง เครื่องยนต์ และเกียร์
- เครื่องยนต์
วิธีดูเครื่องยนต์รถมือสอง ให้เราสังเกตที่เกจ์วัดรอบ ดูว่าเครื่องยนต์เดินนิ่งหรือไม่ รอบเครื่องยนต์มีการสวิงไปมาไหม มีเสียงผิดปกติดังออกมาหรือเปล่า วิธีคือสตาร์ตเครื่องให้ร้อน แล้วดึงก้านวัดระดับน้ำมันเครื่องออกมา ดูว่ามีไอหรือควันพุ่งไหม ปลายท่อไอเสียมีควันไหลหรือไม่
ตรวจเช็กสภาพเครื่องยนต์รถมือสอง อย่าลืมสิ่งนี้!
- การรั่วไหลของน้ำมัน
- หม้อน้ำต้องไม่เป็นสนิม มีรอยรั่ว น้ำในหม้อน้ำต้องไม่ขุ่น
- สายพานไม่หย่อน สายเคเบิลเชื่อมต่อต้องไม่เสียหาย
- ขั้วแบตเตอรีต้องไม่มีขี้เกลือ
- กลิ่นห้องเครื่องไม่เหม็นไหม้
- ระดับของเหลวต้องอยู่ในระดับที่พอดี มีสีใส ไม่ดำ (เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก/คลัตช์ น้ำกลั่น น้ำฉีดกระจก ฯลฯ)
- ส่วนประกอบอื่น ๆ ต้องไม่หลุดหรือเสื่อมสภาพ
4. เช็กส่วนประกอบอื่น ๆ ภายในรถมือสอง
- แอร์
ไม่มีกลิ่นเหม็น แนะนำว่าให้เปิดแรงสุดว่าทำความเย็นได้ดีหรือไม่ มีปัญหาแอร์รถไม่เย็น มีแต่ลมหรือแอร์รถมีกลิ่นอับ เหม็นเปรี้ยวหรือเปล่า แต่ถ้าเปลี่ยนกรองแอร์รถยนต์แล้วหายก็ไม่เป็นไร
- ไฟ
ต้องใช้ได้ทุกจุด ทั้งไฟเลี้ยว ไฟสูง ไฟฉุกเฉิน และไฟท้าย
- พวงมาลัย
หมุนแล้วต้องไม่ฝืดหรือค้าง
- เรือนไมล์
ลองสตาร์ตรถดูแล้วเช็กว่าใช้งานได้ปกติไหม ระบบไฟรวนหรือเปล่า บางที่อาจจะแปะเทปดำเพื่อให้ไฟเตือนไม่โชว์ ทางที่ดีอยากให้ศึกษาเรื่อง สัญลักษณ์ไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์ แบบไหน ‘อันตราย’ หรือ ‘ขับต่อได้’ เพื่อจะได้รู้เท่าทัน
- เลขไมล์
การดูเลขไมล์รถมือสอง ถ้าอายุการใช้งานประมาณ 1 ปี เลขไมล์มักจะอยู่ที่ 20,000-30,000 กม. แต่ถ้าใช้งานมาแล้ว 5 – 6 ปี แล้วเลขไมล์อยู่ที่ 50,000 ให้สันนิษฐานว่าอาจมีการกรอเลขไมล์รถยนต์ แนะนำให้ดูว่า รถมือสองไมล์เท่าไหร่ดี ไมล์น้อยดีจริงเหรอ?
5. ตรวจสอบเอกสารรถยนต์
- เลขตัวถังและเลขเครื่องยนต์
วิธีดูเครื่องยนต์รถมือสอง ให้เราตรวจสอบเลขตัวถังและเลขเครื่องยนต์ในเล่มว่าตรงกับเพลตหรือไม่ โดยรถแต่ละรุ่นตำแหน่งเลขตัวถังและเลขเครื่องยนต์จะอยู่ต่างกัน หากเราหาตำแหน่งไม่เจอก็ให้เราเปิดเล่มรถ ซึ่งในเล่มจะระบุตำแหน่งของเลขเอาไว้ชัดเจน
- ผู้ถือกรรมสิทธิ์
เปลี่ยนมือมาแล้วกี่คน เจ้าของคนล่าสุดชื่อตรงกับบัตรประชาชนไหม อย่ามองข้ามเชียวนะ เพราะไม่รู้ว่าโดนสวมรอยจากคนอื่นหรือเปล่า
- รายการภาษี
เสียภาษีทุกปีหรือไม่ ทริกเล็ก ๆ คือให้ดูสีหมึกกับระยะบรรทัด เล่มจริงจะไม่เท่ากัน ถ้าเท่าเมื่อไร มีโอกาสที่จะเป็นเล่มปลอม
- รายการบันทึกของเจ้าหน้าที่
เช็กประวัติรถว่ามีความเป็นมาอย่างไร ปรับเปลี่ยนหรือซ่อมอะไรไปบ้าง และถ้ามีการประทับตราว่า “ออกแทนเล่มสูญหาย” ให้เอะใจไว้ก่อนว่าอาจปลอมแปลงเล่มมา คนในวงการมักเรียกว่าล้างเล่มทะเบียนรถ